ขนมครกสูตรโบราณ (กรอบโดยไม่ต้องใส่น้ำปูนใส)

 ขนมครกสูตรโบราณคุณย่า (กรอบโดยไม่ต้องใส่น้ำปูนใส) หวานๆมันๆ

ขนมครกสูตรคุณหญิงย่ากรอบนอกนุ่มใน หวานๆมันๆ สักครก เอ๊ย สักคู่มั้ยคะ

ขนมครกสูตรโบราณ (กรอบโดยไม่ต้องใส่น้ำปูนใส)

ส่วนผสมตัวแป้ง

ข้าวสาร(ใช้ข้าวเก่าที่ไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ) 2 ถ้วย
โบราณเรียกว่าข้าวเคี่ยว
ข้าวสุก 3/4 ถ้วย
มะพร้าวขูดแบบขาวๆ 1 ถ้วยครึ่ง
เกลือป่น 1 ชช.
น้ำเดือดจัดๆ 6 ถ้วย

เทส่วนผสมทุกอย่างใสลงในกาละมังใบใหญ่(ต้องเผื่อเนื้อที่เวลาข้าวสารขึ้นอืดด้วยนะ) เทน้ำเดือดจัดๆ ลงไป ใช้พายหรือทัพพีคนให้ทั่ว (อย่าให้เหลือข้าวสารกอดกัน) ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปโม่ให้ละเอียดเนียน
(ไม่ต้องทิ้งข้ามคืนแบบแป้งทับน้ำธรรมดานะคะ)

ถ้าทำจำนวนมาก ให้หล่อกาละมังด้วยน้ำเย็น(ไมใช่น้ำแข็งนะ) ข้าวสารจะได้ไม่สุกเกินไป ถ้าข้าวสุกเกินไป เวลาหยอด ขนมจะติด และแหยะๆ

ส่วนกะทิหยอดหน้า

(สูตรนี้ไม่ต้องจิ้มน้ำตาล ถ้าต้องการใส่หน้าต่างๆ เช่นหน้าฝอยทอง หน้าไข่เค็ม ต้องคอยดูและปรับความหวานเค็มเอาเอง ปกติทำกินเองจะไม่ใส่ คุณย่าท่านว่าทำกินเทียมเจ้าเทียมนาย ไม่สมควร)

น้ำกะทิ 2+1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
เกลือป่น 1 + 3/4 ชช.
ผสมรวมกัน คนให้ละลาย (สมัยก่อนต้องกรองให้สะอาด)

วิธีทำให้เตาร่อน

(กรณีเตาใหม่ หรือ ไม่ได้ใช้นานๆ)
สมัยก่อน ใช้สุมหลุมขนมด้วยกากมะพร้าวที่คั้นแล้ว แล้วเผาไฟรุมๆ แบบนี้ใช้เวลานาน
อีกวิธีหนึ่ง ใช้น้ำมันทาในหลุมขนม ตั้งไฟอ่อนมากๆ หมั่นเติมน้ำมัน จนกะทะอิ่มตัว น้ำมันไม่พร่อง เป็นอันใช้ได้

วิธีหยอด

ตั้งไฟให้ร้อน เช็ดหลุมด้วยน้ำมัน หยอดตัวแป้ง ประมาณ 3/4 ของหลุม พักไว้อึดใจนึงแล้วค่อยหยอดหน้ากะทิ จนเต็ม ปิดฝา

ปกติ จะให้หยอดแป้งหลุมกลางก่อน พอหยอดถึงรอบที่ 2 เสร็จ ค่อยกลับมาหยอดกะทิหลุมกลาง แล้วจึงกลับไปทำแบบเดียวกันกับหลุมรอบนอกๆ

ไฟ กรณีใช้กะทะเหล็ก ถ้าไฟร้อนจัดเกินไป แป้งจะสุกทันที ควรใช้ไฟกลางๆ แป้งเดือด แตกมัน น่ารับประทาน ถ้าไฟอ่อนไป หน้าขนมจะด้านและเป็นแป้งแข็งๆ

ถ้าใช้เตาถ่าน ให้เกลี่ยถ่านไว้ด้านข้าง ถ้าใช้เตาแก๊ส ให้ดับวงในซะ

ปอลิง : ขนมครกสูตรนี้ ถ้าทำถูกต้อง เวลารับประทาน แป้งกับกะทิจะละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ครึ่งชม. ยังกรอบ และคงรูป ไม่ย้วย

สูตรนี้ ใช้หยอดเตาขนาดกลาง 20 หลุม จะได้ขนม 320 ฝา หรือ 160 คู่

ปอลิง อีกที : สำหรับแม่บ้านสมัยใหม่ที่จะใช้ปั่นแทนการโม่ ให้ปั่นทีละน้อย มันจะละเอียดไว ถ้าปั่นเยอะๆ ต้องใช้เวลานาน จะเกิดความร้อน ข้าวจะสุกเกินไป ตอนหยอด มันจะแหยะๆนะ

ขอบคุณภาพและสูตรจากคุณ Pan Pinratt‎