รักที่ยิ่ง ใ ห ญ่ คือรักของ แ ม่ แล้วลูกรักแม่บ้างไหม เขียนไว้ดีมากๆ


แม่คนนี้รักลูกเยี่ยงชีวิต แล้วลูกรักแม่บ้างไหม เขียนไว้ดีมากๆ

บทความนี้ได้ถูกเผยแพร่อยู่ตามเพจต่างๆ ของหลายๆ มหาวิทย าลัยในประเทศจีน มันถูกเขียนขึ้นจากส่วนลึกของหัวใจของแม่คนหนึ่งที่ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา เธอกำลังหาทางออกให้กับชีวิตที่เศร้าสร้อยและเหงาหงอย

ฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ตอนอายุ 38 ฉันเริ่มเลี้ยงดูลูกสาววัย 8 ขวบด้วยตัวฉันเอง ไม่อย ากบอกว่ามันย ากลำบากแค่ไหน แต่มันคงเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ขมขื่นอันย ากที่จะลืมเลือน เพื่อที่จะไม่ให้ลูกได้รับความกระทบกระเทือนจากการขาดพ่อ เนื่องจากพ่อของเขาจงใจทิ้งพวกเราไป ฉันจึงมุ่งมั่นทุ่มเทความรักทั้งหมดเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด เท่าที่ความสามารถของแม่คนหนึ่งพึงจะทำได้


การเรียนของลูกดีเยี่ยมมาตลอด จากมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย คะแนนจะอยู่ในกลุ่มแถวหน้าเสมอ ตอนสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทย าลัย ลูกสอบติดเป็นหนึ่งในห้าคนแรกของเทคโนโลยีธรณีวิทย า สาขาแร่ยูเรเนียม มหาวิทย าลัยชิงหัว พอจบจากที่นี่ ก็ไปเรียนต่อที่มหาวิทย าลัยชิคาโก สุดท้ายจบด็อกเตอร์ที่อเมริกา แล้วทำงานต่อเกี่ยวกับงานวิจัยที่นั่นตลอดมา

ลูกเขยของฉันก็เป็นหนึ่งในเด็กท็อปจากนครเซี่ยงไฮ้ แม้อายุยังไม่เยอะ แต่ก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทย าลัยชิคาโกแล้ว พวกเขามีลูกชายวัย 4 ขวบ คุณปู่กับคุณย่าของหลานเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ไปช่วยเลี้ยงหลานชายคนนี้เป็นเวลา 2 ปี

กลางปีที่ผ่านมาเดินทางกลับเซี่ยงไฮ้ทั้งคู่ สาเหตุคือพวกเขามีปัญหาอยู่กับลูกสาวฉันไม่ได้ ทะเลาะกันบ่อย คุณปู่ซึ่งเคยเป็นอธิบดีที่เซี่ยงไฮ้สุดจะทน ตัดสินใจพาคุณย่ากลับเซี่ยงไฮ้แบบไม่เหลียวหลัง เห็นบ่นว่าไม่ขอรับเคราะห์กรรมต่อไปอีกแล้วในอเมริกา

ลูกสาวลูกเขยเพียรโทรหาฉันตั้งหลายครั้ง อย ากให้คุณย ายคนนี้ไปช่วยพวกเขาเลี้ยงหลานในชิคาโก ถึงแม้ฉันจะเกษียณจากหน้าที่การงานประจำแล้ว แต่ที่ทำงานก็ยังจ้างฉันทำงานต่อ ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย รายได้ดี จิตใจแจ่มใส

แต่พอนึกถึงสภาพที่ย ากลำบากของลูกสาวในชิคาโก สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินทางไปอเมริกา แต่ชีวิตในอเมริกาย ากลำบากกว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้เยอะ นอกจากเรื่องภาษา สถานที่ และผู้คนที่ฉันไม่คุ้นเคยเลย ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกสาวกับลูกเขยไม่ค่อยยอมสื่อสารพูดคุยกับฉัน

พวกเขาออกเช้ากลับดึกแทบทุกวัน กลับถึงบ้านก็แทบจะตรงเข้าห้องนอน วันหยุดสุดสัปดาห์ หากไม่ใช่นอนจนไม่ลืมหูลืมตา ก็จะยุ่งแต่กับโน๊ตบุ๊คหรือโทรศัพท์ มีแต่ฉันเพียงคนเดียวที่ต้องวุ่นวายกับเรื่องเลี้ยงหลานและงานบ้านจิปาถะ รู้สึกเหมือนเป็นแม่บ้านแก่ๆ คนหนึ่งที่พวกเขาจ้างมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

งานทุกอย่างเหมือนเป็นหน้าที่ที่ฉันสมควรจะต้องทำ เวลาพวกเขาจะกินอะไร ไม่ว่าผลไม้ เครื่องดื่มหรืออะไรก็ตาม ไม่เคยคิดที่จะถามหรือชวนฉันสักคำว่าอย ากกินด้วยหรือเปล่า มีแต่กับข้าวกับปลาที่พวกเขากินเหลือ นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องเหมาให้หมดคนเดียว

ไม่ว่าพวกเขาคิดหรือทำอะไรในบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกต้องหมด แม้ฉันจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีสิทธิ์วิพากวิจารณ์หรือออกความเห็น คงเพราะในสายตาของพวกเขา ฉันเป็นแค่คนแก่ที่ไม่เคยเห็นโลกกว้าง ไม่รู้ว่าโลกเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว

ในวันหยุดย าว พวกเขาพาลูกออกไปเที่ยว แต่ปล่อยให้ฉันอยู่บ้านคนเดียว ฉันเดาไม่ออกจริงๆ ว่าจิตใจพวกเขาคิดอะไรอยู่ สงสัยจริงๆ ว่าความเป็นอยู่ในอเมริกาทำให้พวกเขาเปลี่ยนไป หรือเป็นเพราะพวกเขาล้วนเป็นลูกโทน เลยทำให้กลายเป็นคนแบบนี้

ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกเขย พวกเขาล้วนมีรายได้ที่ดีมาก เห็นบริจาคเงินให้คนจนในแอฟริกาบ่อยๆ ฉันเคยลองปรึกษากับพวกเขาว่า คุณลุงกับคุณป้าที่อยู่ในชนบทที่หูหนาน อายุเยอะมากแล้ว แต่ความเป็นอยู่ก็ยังย ากลำบากพอประมาณ เห็นพวกเขาบริจาคเงินมากมายให้คนไม่รู้จักกันในแอฟริกา

จะลองแบ่งปันเงินสักส่วนไปช่วยญาติผู้ใหญ่ของตนเองจะได้ไหม คำตอบจากคนทั้งสองทำให้ฉันตกใจปนเสียใจ เขาบอกว่าคนจนในแอฟริกาต้องการความช่วยเหลือมากกว่า และการช่วยเหลือเครือญาติของตนไม่ถือว่าเป็นการกุศล ไร้ความหมาย

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวฉันกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ ไร้ความเมตตาปราณี เย็นชาเกินบรรย าย หรือนี่คือความล้มเหลวของการสั่งสอนจากแม่อย่างฉันคนนี้ ถ้าหากจะกล่าวหาว่าฉันเป็นคนไม่มีความรู้สูงเหมือนพวกเขา สั่งสอนลูกไม่เป็น แล้วพ่อแม่ของลูกเขยที่เคยเป็นถึงข้าราชการระดับสูงจากเซี่ยงไฮ้

คนหนึ่งเป็นถึงอธิบดี อีกคนก็เป็นอาจารย์ในมหาวิทย าลัย แล้วทำไมลูกชายของพวกเขาก็มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน พวกเขาเคยโทรศัพท์คุยกับฉันว่า คุณคงลำบากแย่เลยในตอนนี้ สาเหตุล้วนมาจากลูกโทนของพวกเรา ให้พวกเขาไปจ้างพี่เลี้ยงหรือแม่บ้านมาดูแลกันเองเถอะ คุณอย่าไปทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นั่นเลย พวกเราล้วนอายุเยอะแล้ว กลับบ้านใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขดีกว่า

คำพูดของพวกเขาทำให้ฉันคิดหนัก แต่ฉันยังทำใจไม่ได้

ย้อนอดีตนึกไปถึงตอนที่ลูกสาวกำลังสอบเอ็นทรานซ์ ฉันยืนเฝ้าอยู่หน้าโรงเรียนอันเป็นสถานที่สอบของเขา สามวันที่รอคอย ฉันได้แต่ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้เขาประสบความสำเร็จ คืนที่ได้รับใบประกาศผลสอบจากมหาวิทย าลัยชิงหัว ลูกสาวน้ำตานองหน้ากอดฉันไว้แน่น ได้ยินเขาพูดว่า แม่จ๋า แม่ลำบากมามากแล้ว ถ้าลูกประสบความสำเร็จในอนาคต ลูกจะต้องตอนแทนบุญคุณแม่อย่างดีที่สุด

ฉันรู้แต่ว่าตอนนั้นฉันปลื้มใจที่สุดในชีวิต ฉันรู้ว่ามันคุ้มค่าแล้วสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันได้ทุ่มเทมาเป็นเวลาอันย าวนาน คำพูดเหล่านั้นของลูกสาว ทำให้ฉันรู้สึกว่าโลกนี้มันไม่มีความมืดมิดอีกต่อไป แต่พอมาถึงตอนนี้ วันที่ลูกสาวฉันได้มีโอกาสเชิดหน้าชูตาเหมือนคนอื่น แต่ภายในจิตใจฉันกลับมีแต่ความเจ็บปวด ลูกยังจำคำพูดเหล่านั้นได้หรือเปล่า แล้วลูกยังจำสิ่งที่แม่คนนี้ได้ทุ่มเทให้กับลูกมาชั่วชีวิตได้ไหม

ที่มา ขจรศักดิ์