มีเพื่อนแบบนี้ เลิกคบเหอะ แล้วชีวิตจะดีขึ้นอีกเยอะ




ในชีวิตปัจจุบันคุณต้องพบกับผู้คนหลากหลายรูปแบบเหลือเกิน บางคนที่คุณกำลังคบกำลังสนิทด้วย แน่นอนว่าบนโลกใบนี้อาจไม่มีคนเพอร์เฟ็กซ์ไปซะทุกด้าน แต่ถึงเวลาที่ตัวคุณต้องพิจารณาคนรอบข้างของคุณแล้วว่าเขากำลังมีนิสัยที่ไม่น่าคบดังต่อไปนี้หรือไม่

1. ทำตัวเป็น “นกสองหัว” ปากอย่างใจอย่างหรือต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง

สำหรับบุคคลเหล่านี้แล้ว ต่อหน้าเขาคุณจะเปรียบเป็นเทพบุตรผู้ไร้ราคี เขาจะไม่มีวันเอาข้อเสียหรือสิ่งที่เขาไม่พอใจมาพูดให้คุณได้ฟังต่อหน้าเป็นแน่ แต่อย่าได้เผลอเลยคนคนเดียวกันนี่เองลับหลังคุณเขาได้เอาคุณไปพูดไปนินทาไปพูดกระแนะกระแหนไปกุเรื่องเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง จนกลายเป็นอีกเรื่องที่คุณอาจไม่คิดมาก่อนก็ได้


2. กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด

บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝงมาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆเข้ามาหาคุณ ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่เขาเข้าหาคุณนั้นเพียงเพื่อจะมาเอาผลประโยชน์จากคุณเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ อาจจะเป็นแรงกาย หรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณเพื่อโอนเข้าทางประโยชน์ของเขา มันเป็นเรื่องปกติมากที่คนเราทุกคนเกิดมาอย่าง “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ความหมายคือคนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน ย้ำอีกที “ซึ่งกันและกัน” แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ตีความผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบ เขากลับเห็นแต่ประโยชน์ที่คุณจะสามารถให้เขาได้ ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณสารพัดรูปแบบ สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้ โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิดแม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่างใด

3. สนใจแต่เฉพาะเรื่องตัวเอง มักจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่ต้องการให้คนช่วยเสร็จแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ

คนประเภทนี้เอาคำว่า “เพื่อน” หรือความสัมพันธ์ต่างๆมาบังหน้าไว้เท่านั้น คุณสมบัติของคนเหล่านี้ ร้อยวันพันปีหากไม่มีเรื่องอะไรที่ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลย ยกตัวอย่างเล็กๆเช่น เขาจะ Line จะ Facebook ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขากำลังมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้น กลุ่มบุคคลนี้มักเป็นผู้เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิ และพอเขาใช้งานคุณเสร็จแล้วก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็ว บุคคลเหล่านี้ขัดกับตำราเพื่อนที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่าคนช่วยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน คนประเภทนี้หากคุณสังเกตดีๆว่าเวลาคุณต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาบ้างบางครั้งเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวเลยก็เป็นได้นะ

4. ทำตัวเป็น “งูเห่า” เลี้ยงไม่เชื่อง

สมัยเด็กคุณคงเคยได้ยินนิทานก่อนนอนเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” มาบ้างแล้ว บางทีคุณไม่ได้โง่หรอกที่เมื่อเพิ่งรู้จักกันระยะแรกคุณมองไม่ออกว่าคนรอบตัวคุณใครคือ “งูเห่า” ด้วยความที่คุณเป็นคนดีคุณก็เมตตาคนประเภทนี้ไปเรื่อยๆ แต่คนประเภทนี้นอกจากเขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณ เขายังไปฉกกัดคุณ มีความริษยาในดวงใจ จ้องจะทำร้ายคุณเป็นผลตอบแทน

5. เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง

บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้อื่นไปแล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไร บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือนความจริง จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง

6. ไม่มีความ “เสมอภาค” ในมิตรภาพ ไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย

คุณอาจสงสัยว่าหมายถึงบุคคลประเภทนี้ใดกัน บุคคลประเภทนี้ก็หมายถึงบุคคลที่ชอบทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม ตัวอย่างก็เช่นเวลาใดที่บุคคลเหล่านี้มีเรื่องทุกข์ใจอยากแช ร์ก็ไปหาคุณได้ตลอดเวลา แต่พอคุณมีเรื่องต้องการคนปรับทุกข์บ้างคุณกลับไม่สามารถไปหาคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับไม่ได้รับฟัง หรือ เขาอาจเรียกร้องน้ำใจของคุณอยู่ฝ่ายเดียวเช่น ช่วยงานให้เขาหรือให้คุณช่วยอะไรเขาจิปาถะ แต่เมื่อถึงทีของคุณบ้างคุณกลับไม่ได้รับน้ำใจนั้นกลับคืนมา เรื่องนี้ดูเผินๆอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันมีความหมายว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากที่คุณคิด

7. เป็นมิจจาชีพในรูปแบบคนรู้จัก

บุคคลประเภทนี้อาจเข้ามาทำความรู้จักกับคุณเพราะเขาต้องการบางอย่างจากคุณแบบไม่สุจริต เขาอาจเป็นมือขโมยในคราบของเพื่อน ไม่ว่าเป็นทรัพย์สินทางตัวหรือทางปัญหา หรือไม่ก็หลอกหาผลประโยชน์ด้วยวิธีแบบเดียวกับที่มิจฉาชีพเขาทำกัน สำหรับคนประเภทนี้แล้วเมื่อคุณต้องระวังตัวเมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามีคนประเภทนี้เข้ามาในชีวิตทางที่ดีแนะนำให้ตีตัวออกห่างไปยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

หากคนรอบข้างของคุณหรือขอให้ถือโอกาสนี้รวมไปให้ตัวคุณเองได้พิจารณาตัวเองมีลักษณะนิสัยข้อใดที่เป็นอยู่จงรู้ไว้ว่าเป็นนิสัยที่ไม่น่าคบหา หากเปลี่ยนได้ควรตั้งใจเปลี่ยนให้ดีตั้งแต่วันนี้ดีกว่า คุณต้องอย่าลืมว่าคนที่มีนิสัยดังกล่าวเหล่านี้นั้นจงเชื่อว่าล้วนจะไม่เป็นผลดีต่อตัวของบุคคลคนนั้นเอง บุคคลอื่นอาจจะรู้ไม่ถึงในครั้งแรกๆ แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มี Common sense เป็นของตนเองที่จะรับรู้และพิจารณานิสัย ชีวิตของบุคคลเหล่านี้จะแสแสร้งหรือทำนิสัยด้านลบเหล่านี้ต่อคนอื่นได้กี่ครั้งกันเชียว



วิธีง่ายๆ ในการมองหาเพื่อนแท้สักคนที่จะเคียงข้างเรา


ประการแรกควรมีความจริงใจ หวังดีต่อกัน ซึ่งในจุดนี้บางครั้งอาจจะมองกันยากในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาบ่มเพาะมิตรภาพ และพยายามเรียนรู้นิสัยใจคอกันเป็นเวลานานพอสมควร ดั่งคำกล่าวที่ว่า เพื่อนใหม่เป็นดั่งของขวัญ ไม่รู้ว่าเปิดดูข้างในจะเจอกับอะไร แต่เพื่อนเก่าเปรียบดั่งสมบัติล้ำค่า ยิ่งนานวันไปยิ่งมีคุณค่ามากขึ้น

เพื่อนที่ดีต่อกล้าแนะนำในทางที่ถูกที่ควร ต้องกล้าขัดใจหากเห็นว่าทำไม่ถูกต้องไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม อีกทั้งไม่ควรประจบสอพลอเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น ยามที่เพื่อนมีปัญหาทุกข์ใจต้องคอยปลอบประโลม และต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ที่สำคัญต้องขจัดความรู้สึกอิจฉาริษยาหากเห็นเพื่อนได้ดี

ไม่ว่าปัญหาจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม เพื่อนที่ดีต้องมีความกระตืนรือร้นที่จะเข้าไปช่วย อย่าผละจากไปโดยปล่อยให้เพื่อนต่อสู้ตามลำพัง ถ้าหากเกินกำลังตัวเองก็ต้องพูดคุยกันเพื่อร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เรื่องเงินถือเป็นเรื่องที่ลำบากใจที่สุดอย่างหนึ่ง สำหรับคำว่าเพื่อน หากถูกเอ่ยปากขอยืมเงินแล้วก็ควรจะให้ยืมถ้าไม่มากนัก ที่สำคัญเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้คืนก็ควรจะให้ตรงเวลาเพื่อสร้างเครดิตให้แก่ตนเอง แต่ถ้าหากมากเกินไปจนไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด หรือช่วยได้บางส่วนก็สมควรบอกตามตรง อย่างไรก็ดี หากเพื่อนเอ่ยปากยืมไปแล้วหลายครั้ง และให้สัญญาว่าจะใช้ แต่ก็ไม่ยอมใช้เลยสักครั้งเดียวก็สมควรเลิกคบไปเลยจะดีกว่าเนื่องจากเป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่าเจ้าเพื่อนคนนี้มันไม่มีสัจจะแม้แต่น้อย

ทุกคนเกิดมาจะอยู่โดดเดียวคนเดียวไม่ได้ต้องมีการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเสมอ….

สิ่งที่ควรอยากจะฝาก… ก็คือ… เวลาอยู่คนเดียวให้ระวังความคิด… อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา

อยากที่จะได้เพื่อนที่จริงใจ เราต้องแสดงความจริงใจก่อน

แต่… อย่าได้ไปคาดหวังว่าจะได้รับความจริงใจกลับมาจากทุกคน

แม้เราจะให้ความจริงใจไปแล้วก็ตาม… ( เผื่อใจเอาไว้บ้าง )

“เพื่อนแท้” คือผู้ที่ยินดีเข้ามาในชีวิตเราขณะเมื่อคนทั้งโลกจากเราไป

“เพื่อนแท้” คือคนที่ยังอยู่กับเรา ร่วมทุกข์ร่วมสุขแม้ในเวลาที่เราไม่มีประโยชน์จะให้

“เพื่อนแท้” คือบุคคลที่เราสามารถฝากชีวิตไว้ได้โดยเฉพาะยามทุกข์ยากลำบาก

“เพื่อนแท้” คือผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ผู้ทำให้ชีวิตเปี่ยมด้วยความหมายและมีคุณค่าสูงสุด

“เพื่อนแท้” คือคนที่อยู่กับเราทุกสภาพชีวิตไม่ว่าเราจะมีชื่อเสียงหรือตกต่ำ

“เพื่อนแท้” คือบุคคลที่คบกับเราในลักษณะที่เราเป็นอยู่โดยที่เราไม่ต้องใส่หน้ากาก

“เพื่อนแท้” คือคนที่มีความเต็มใจช่วยเหลือเราโดยที่ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์

“เพื่อนแท้” คือคนที่ไม่ได้เห็นผิดเป็นชอบ แต่ตักเตือนเราไม่ให้หลงผิดและแนะนำทิศให้ถูกต้อง

“เพื่อนแท้” คือคนที่ไม่ได้เห็นด้วยกับเราในทุกอย่างทุกครั้ง แต่เป็นคนที่ตักเตือนเราด้วยในบางครั้ง

“เพื่อนแท้” คือคนที่ให้ไหล่ไวซับน้ำตา คือคนที่คุณอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางความเงียบแล้วไม่อึดอัด

Cr. บทความจาก : อาจารย์โช