ทำให้ถูกวิธี ช่วยให้การเงินรุ่งเรือง หลุดจากภาระหนี้สิน

เผยคาถาบูชา “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ทำให้ถูกวิธี ช่วยให้การเงินรุ่งเรือง การค้ามั่งมี หมดหนี้หมดสิน!

หากพูดถึงเรื่องของการ “บน” หรือ “ขอ” เพื่อให้หลุดจากภาระหนี้สินนั้นส่วนใหญ่จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความนิยมเพื่อให้พาชีวิตครอบครัวอยู่รอดคือการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ซึ่งคนที่ไปบนบานที่นั่นเชื่อว่าท่านจะสามารถช่วยเหลือในเรื่องของหนี้สินได้ เพราะในอดีตนั้นเคยเป็นหนี้เป็นสินประเทศจีนจึงทำให้พระองค์เข้าใจหัวอกของคนเป็นหนี้นั่นเอง

ส่วนใหญ่ผู้ที่ไปบนบานยังสามารถขอให้ท่านช่วยเรื่อง ค้าขาย การเรียน การงาน อีกด้วย สำหรับวิธีบนนั้นจะต้องใช้ธูป 16 ดอก มาลัยดาวเรือง มาลัยมะลิ และหลังจากสำเร็จแล้วต้องการจะแก้บนจะต้องแก้บนตามคำกล่าวที่เคยขอท่านไว้หรือโดยการนำอาหารคาว หวาน มาถวายท่าน

เหล่าข้าราชบริพาร และประชาราษฏร์ผู้รู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงเทิดทูนยกย่องถวายพระเกียรติของพระองค์ท่านว่า “มหาราช” สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระผู้ทรงเป็นมหาวีรบุรุษของชาติไทย ตราบจนเท่าทุกวันนี้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 คณะรัฐบาลไทยในสมัย ฯพณฯ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่ ณ วงเวียนใหญ่ กรุงธนบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๙

ตัวอนุสาวรีย์สูง 8.59 เมตร กว้าง 1.8 เมตร ยาว 3.50 น. ด้วยรูปหล่อทองสัมฤทธ์บรมรูปทรงม้า ทรงพระมาลา ยกกรข้างขวาชูดาบ พร้อมที่จะเผชิญกับข้าศึกอย่างฉับพลัน เพื่อน้อมรำลึกถึงในพระเกียรติประวัติ เกียรติยศ เกียรติคุณ ให้ทรงปรากฏกับอนุชนรุ่นหลังสืบต่อมา โดยถือกำหนดเอาวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันถวายบังคมราชสักการะคล้าย “วันปราบดาภิเษก” เสด็จขึ้นเสวยราชย์ฯ

การถวายเครื่องสักการะบูชา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีดังต่อไปนี้

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นดวงพระวิญญาณที่สถิตย์เป็นหนึ่งในสมเด็จพระสยามเทวาธิราชเจ้า คอยปกป้องรักษาแผ่นดินไทยให้มีความเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์และมีชัยชนะเหนืออริราชศัตรู ทรงโปรดสิ่งเหล่านี้

1.ผู้มีความซื่อสัตย์ต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ ตลอดจนผู้ที่เป็นนักรบรั้วของชาติ

2.พระกระยาหารที่ทรงเสวยนั้น ส่วนใหญ่เป็นแบบไทยง่ายๆ และอาหารแบบเดินทัพทั้งหลาย เช่น เครื่องของแห้งต่างๆ

3.แต่บางแห่งเช่น ที่วัดหนองนกไข่ ทรงนิมิตรแก่ท่านเจ้าอาวาส ว่า ทรงโปรดข้าวต้มผัดและไข่ต้ม อันเป็นอาหารสำหรับเดินทัพ

4.ผลไม้ไทยและจีน เครื่องเซ่นไหว้แบบจีนเต็มชุด เช่น เป็ด ไก่ หัวหมูบายศรี และซาแซ เป็นอาทิ

5.น้ำเปล่า น้ำผลไม้ และน้ำหวานอื่นๆ ไม่ทรงโปรดเสวยน้ำจัณฑ์

6.ดอกไม้ที่ใช้บูชา โปรดสีแดง อันเป็นสีแห่งวันพระราชสมภพของพระองค์

7.เครื่องถวายแก้บนโปรดดาบไทย ครั้งละ 2 เล่ม และปืนใหญ่จำลอง

8.โปรดเสียงประทัด และเสียงปืน

เมื่อจะขอพระบารมี ต้องจุดธูป 16 ดอก กลางแจ้ง แล้วกราบขอพระราชทานพระบารมี ตามที่ต้องการ

คำบูชาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

(นะโม 3 จบ)

อาราธนาดวงพระวิญญาณ

โอม สิโน ราชาเทวะ ชะยะตุภะวัง สัพพะศัตรู วินาสสันติ

ถวายเครื่องสักการะ

โอม สิโน ราชาเทวะ นะมามิหัง

พระคาถาให้โชคลาภ

(นะโม 3 จบ)

นะชาลิติ มะหาลาโภ ลาโภ มหาโชค มหาลาภ

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราชจากพม่าเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พระองค์ไม่เพียงจะได้รับการเทิดทูนอย่างสูงจากชนชาวไทย ในฐานะพระมหากษัตริย์นักรบเท่านั้น พระองค์ยังเป็นที่พึ่งทางใจของคนทั่วไปตลอดมา ด้วยความเชื่อว่าบารมีแห่งพระองค์ท่านจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในเรื่อง การค้าขาย การเรียน การงาน หนี้สินจากการค้าขาย

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร มีพระนามเดิมว่า สิน พระราชบิดาเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ นกเอี้ยง (ภายหลังเป็นกรมพระเทพามาตย์)

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปราบดาภิเษกขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาในทางพิธีการ[4] เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยอาณาจักรธนบุรี ขณะพระชนมายุได้ 34 พรรษา พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เมื่อมีพระชนมายุได้ 48 พรรษา ทรงครองราชย์นานถึง 15 ปี พระราชโอรส-พระราชธิดา รวมทั้งสิ้น 30 พระองค์


พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์ คือ การกอบกู้เอกราชจากพม่าภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง โดยขับไล่ทหารพม่าออกจากราชอาณาจักรจนหมดสิ้น และยังทรงทำสงครามตลอดรัชสมัยเพื่อรวบรวมแผ่นดินซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของขุนศึกก๊กต่าง ๆ ให้เป็นปึกแผ่น เช่นเดียวกับขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประเทศในด้านต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทรงส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา เนื่องจากพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อแผ่นดินไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน” และยังทรงได้รับสมัญญานามมหาราช

ข้อมูลที่มาจาก : welovemyking