กับคนบางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว ไม่รู้ว่าพื้นฐานตัวเองเคยเป็นแบบไหน

 


กับคนบางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว ไม่รู้ว่าพื้นฐานตัวเองเคยเป็นแบบไหน

คนบางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว-บางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว-รวยแล้วอย่าทะนง-รวยแล้วอย่าทะนงชีวิตมีขึ้นมีลง-รวยแล้วชอบลืมตัว-คนรวย-รวย

กับคนบางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว ไม่รู้ว่าพื้นฐานตัวเองเคยเป็นแบบไหน

เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่ให้แง่คิดการใช้ชีวิตอยู่บน

ความพอเพียงรู้จักประมาณตนทำให้เราไม่ต้องยืมหนี้ยืมสิน

คนจนแค่ขยันหาก็รวยได้ บางคนรวยแล้วลืมตัว

ไม่รู้ว่าพื้นฐานตัวเองเคยเป็นแบบไหน

ดูถูกคนอื่น อย่าลืมนะว่ารวยได้ก็ต้องจนได้เหมือนกันไม่มีใครโชคดีตลอดไป

อ ย า ก ให้อ่านเตือนสติ รวยแล้วอย่าทะนงและลืมตัว

ชีวิตมีขึ้นมีลงอย่าดูถูกใคร

บทเรียนชีวิตจากเรื่องจริงที่เตือนใจเราว่า

คนบางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว-บางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว-รวยแล้วอย่าทะนง-รวยแล้วอย่าทะนงชีวิตมีขึ้นมีลง-รวยแล้วชอบลืมตัว-คนรวย-รวย

“รวยแล้วอย่าทะนงและลืมตัว…!!ลำบากตอนแก่น่าเห็นใจที่สุด”

มีอดีตเจ้าของที่ดินมากกว่า 500 ไร่ท่านหนึ่งเ ล่ า ให้ฟังว่า….!!

เมื่อก่อนผมมีที่ดิน 500 ไร่รวมๆ กันทุกเขตของกรุงเทพ

และเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ ตอนนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ผมพกเงินในกระเป๋ากินเหล้าครั้งละแสน

ทำมาค้าขายไม้ได้เงินดีจริงๆ ลูกๆ

ผมส่งเรียนเมืองนอกหมดไม่ต้องทำงานเรียนอย่างเดียว

เมียผมชอบเล่นหุ้นๆ ก็ขึ้นเ อ า ๆ เรามีเงินสดหลายร้อยล้าน

มีญาติผมคนหนึ่งมีเรื่องร้อนเงิน ก็มายืมเงินผม

ผมว่าาเขาซะไม่มีชิ้นดีแต่ก็ให้เงินไปนะแสนนึงแล้วบอกเขาว่า

ไม่ต้องมาหาผมอีกนะ ผมให้ทาน เขารับเงินพร้อมน้ำตา

“ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะรู้สึกยังไง”

ปีต้มยำกุ้งผมไม่สะดุ้ง แต่ปีน้ำท่วมน้ำพัดทุกอย่างไปจากชีวิตผมจริงๆ

เมื่อผมคิดการใหญ่ตั้งโรงงานอะไหล่ที่ อ ยุ ธ ย า ไม่ได้ทำไม้แล้ว

คนบางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว-บางคนที่รวยแล้วชอบลืมตัว-รวยแล้วอย่าทะนง-รวยแล้วอย่าทะนงชีวิตมีขึ้นมีลง-รวยแล้วชอบลืมตัว-คนรวย-รวย

รถผม 19 คัน บ้านอีก 5 หลัง ที่ดินทั้งหมดและเงินสดที่เคยมี

แฟนผมเล่นหุ้นเจ๊งไปสี่ร้อยกว่าล้าน ลูกๆ ทำธุรกิจก็หมดตัวขาดทุนย่อยยับ

ภายใน 2 ปีสิ่งที่ผมมีมันหายไปเหลือไว้เพียงหนี้สินสองร้อยกว่าล้าน

ปัจจุบันผมคือคนหมดตัว

เช่าห้องแถวอยู่พอได้ขายก๋วยเตี๋ยวประทังชีวิตรอความ จากไป ไปวันๆ

เมียผมก็ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร ลูกๆ ผมไม่เคยเห็นหน้า

ตอนนี้ผมอายุ 76 ผมต้องยกหม้อก๋วยเตี๋ยว ล้ า ง จ าน

ทุกวันนี้ผมปลงได้แล้วนะ ผมมาลำบากตอนแก่

เงินค่าเช่าห้องนี้ผมไปยืมกับคนที่ผมเคยว่าเขา แล้วให้เขาไปแสนนึง

ลูกเขายื่นเงินให้ผมแสนห้าแล้วบอกผมว่า..!!

“พ่อผมแบกหน้าไปยืมเงินคุณลุง

เพราะตอนนั้นผมเข้าโ ร ง พ ย า บ า ล พ่อนั่งร้องไห้

คุณลุงว่าแล้วโยนเงินให้เหมือนหมา ลุงบอกว่าจะทำอะไรพ่อ

พ่อก็ยอม เพราะชีวิตลูกมีค่ามากกว่าสิ่งใด

ต่อให้ ร่างกายและจิตใจพ่อก็ยอม ถ้ามีเงินจะให้คืนคุณลุง

แสนนี้ผมคืน ห้าหมื่นคือด อ ก เ บี้ ย เราไม่มีหนี้บุญคุณกัน

แต่ถ้าคุณลุงลำบากคุณลุงมายืมกับผมๆ จะให้ยืม

ผมจะไม่ว่าคุณลุงเหมือนที่คุณลุงว่าพ่อผม

จริงๆ ถ้าไม่มีเงินคุณลุงผมคง จากไป แล้ว

แต่ถ้าพ่อผมไม่อดทนเพื่อแลกชีวิตผม ผมก็จากไป

ผมทำตามที่พ่อบอกแล้ว ลูกพ่อดูแลพ่อ

ส่วนลูกคุณลุงผมไม่รู้ ชีวิตของใครของมัน”

ผมเดินร้องไห้มาถึงบ้านเ อ า เงินจ่ายค่าเช่าห้องแถว

ลงทุนมีเงินเก็บไว้ 30000 บาท

และผมเข้าใจความรู้สึกของคำว่า “สิ่งนั้นย้อนเข้าหาตัว”

หลานไม่ได้ ว่าผม แต่หลานพูดความจริง เพียงแต่ผมรับความจริงไม่ได้

แต่ตอนนี้ผมมีความสุขดีนะ พระ แม่ชี ขอทาน มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านผม

ผมไม่คิดเงิน ตอนผมมีเยอะๆ ผมเบื่อคนบอกบุญ

ผมบอกเขาว่านับถือคริสต์ ผมไม่เคยทำบุญ

ผมเที่ยว ผมกิน ผมมีผู้หญิง ตอนนี้ผมหมดตัวมีหนี้สิน สิ้นเพื่อน ไร้ลูก

ผมถึงได้ฟังธรรมะ เข้าวัดเป็น รู้จักทาน อีกหน่อยก็คง จากไ

ผมห่วงแค่เมียผม ผมภาวนาให้เมียผม จากไป ก่อนผม

เพราะถ้าผม จากไป ก่อนเมียผม ผมจะ จากไปอย่างมีเรื่องไม่สบายใจ

ไม่ต้องถามว่าร้านอยู่แถวไหนเพราะจะไม่บอก เก็บเรื่องราวมาให้อ่าน

คนอ่านจบได้กำไร คนเกียจคร้านอ่ า น ก็คงพ ล า ดโอกาส กำลังใจจากคุณตาที่ให้มา

“ไม่มีคำว่าอด จากไป สำหรับคนขยัน ไม่มีการปลงตกถ้าไม่เคยสูงสุดแล้วมาต่ำสุด”

เรื่องนี้สอนใจได้ดีเหลือเกิน ถือว่าเป็นการสอนใจสำหรับใครหลายๆ

คนที่ทะนงตนและลืมตัวใช่เพื่อเตือนใจตัวเองนะครับ

ที่มา jengmak