อ่านแล้วรักแม่มากขึ้น นิทานเรื่อง “ก้อนเมฆกับต้นไม้แก่”

 

อ่านแล้วรักแม่มากขึ้น นิทานเรื่อง “ก้อนเมฆกับต้นไม้แก่”

ต้นไม้แก่ ขอฝนจากเมฆก้อนน้อยเมฆก้อนน้อย ตอบเพียงว่าน้ำฝนมีอยู่น้อย กลัวว่ามันคงจะไม่พอ ให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ วันต่อมา เมฆก้อนน้อย ก็ยังคงบอกเช่นเดิม มันน้อยไปจึงไม่พร้อมที่จะให้ เมฆก้อนน้อยจึงเดินทางและพย าย ามสะสมฝน

เพื่อที่จะให้มันมากพอพอที่จะทำให้ต้นไม้แก่ ได้ชื่นใจ เมื่อมีปริมาณมากพอ เมฆน้อยจึงกลับมา แต่สิ่งที่พบข้างหน้า มีเพียง ซ า ก ต้นไม้แก่ ที่ พุ พั ง แล้ว เมฆน้อยได้แต่ร้องไห้แล้วถามว่าทำไม ความพย าย าม ของฉันไม่มีค่าเลยเหรอ ชายหนุ่มที่นั่งใต้ต้นไม้ จึงได้แหงนหน้า แล้วบอกเมฆน้อยไปว่า

การที่เราจะให้อะไร? แก่ใครสักคนที่เรารัก มันไม่ต้องรอให้มากพอ หรือ รอความพร้อมอะไรหรอก ให้เท่าที่มี ก็ทำให้คนรับชื่นหัวใจได้ ความพย าย ามเป็นสิ่งที่ดี แต่มันก็มีเวลาเป็นเงื่อนไข

อย่ าไปรอให้รวย ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารักอย่ าไปรอให้พร้อม ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารักเพราะคนที่เรารัก อาจไม่มีเวลามากพอที่รอเรา แล้วก่อนที่ต้นไม้แก่จะจากไป

เขาฝากบอกเธอไว้ว่า ถ้าเห็นเธอผ่ านมา ให้บอกเธอว่า เขารักเธอเมฆน้อย ได้แต่ หลั่ ง น้ำตา ออกมาเป็นเม็ดฝนอย่ างไม่ขาดสาย ให้กับต้นไม้ที่ไม่มีวัน แต กใบให้ได้เห็นอีกต่อไปตลอดกาล

อ่ า น กี่ทีก็ชอบ เพราะเตือนสติได้ดีมากในสิ่งที่เรา มองข้าม

บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้น ในวันที่ 11 กันย ายน 2001 (ตึกเวิรด์เทรด ถ ล่ ม ) 

หลังจากที่ ทราบว่าภรรย าของเขาเ สี ย ชี วิ ต ในตึกนั้นด้วย ทำในสิ่งที่อย ากจะทำ ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น แต่ความอดกลั้นน้อยลง

เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ ครอบครัว เรากลับเล็กลง

เรามีย าใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพ กลับแย่ลง

เรามีความรักน้อยลง แต่มีความ เกลี ย ด มากขึ้น

เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า

แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับ ย ากเย็น

เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจ

กลับไม่อาจสัมผัสถึง เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรม กลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพ แย่ ลง ทุกวันนี้ ทุกบ้าน มีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน

แต่ การหย่ าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จากนี้ไปขอให้พวกเรา

อย่ าเก็บของดีๆ ไว้โดยอ้างว่า เพื่อใช้โอกาสพิเศษ

เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่ คือ โอกาสที่พิเศษสุดแล้ว

จงแสวงหาการหยั่งรู้

จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชม กับการมีชีวิตอยู่

โดยไม่ใส่ใจกับความอย าก

จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่รักให้มากขึ้น

กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อย าก จะไป

ชีวิตคือ โซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุข ไม่ใช่เพียงแค่ การอยู่ให้รอด

เ อาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสี ย น้ำหอมดีๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้ เมื่ออย ากจะใช้

เอ าคำพูดที่ว่า “สักวันหนึ่ง” ออกไปเสีย จากพจนานุกรม

บอกคนที่เรารักทุกคนว่า

เรารักพวกเขาเหล่ านั้น แค่ไหน อย่ า ผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตาม ที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น

ทุกวันทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย เราไม่อาจรู้เลยว่าเมื่อไร มันจะสิ้นสุดลง และเวลานี้

ขอบคุณบทความดีๆจาก : postsabaidee.com